
www.lowtherloudspeakers.com
ทดลองฟังได้ที่นี่ Lowther Showroom 12/8 ลาดพร้าว 71 ติดเลียบด่วน โทร/ไลน์ 0845603199
PM7A คู่ละ 68,000 และ PM5A คู่ละ 85,000
PM6C คู่ละ 43,000 และ PM6A คู่ละ 49,000
Lowther in Thailand

ลำโพงฟูลเรนจ์หรือลำโพงที่ใช้ไดรเวอร์ยูนิตเดียวในการสร้างความถี่เสียงให้ครบตลอดย่านตั้งแต่ความถี่ต่ำไปถึงความถี่สูงสุดเพื่อใช้สำหรับฟังเพลงอย่างจริงจังนั้นส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือเส้นแรงแม่เหล็ก
Lowther มี 3 ระดับความแรงของเส้นแรงแม่เหล็กในแต่ละแบบของรุ่น PM6, PM7 และ PM5 ที่ใช้ได้กับตู้ Acousta
ความถี่ต่ำของลำโพงนี้จะใช้วิธีการขยายเสียงจากด้านหลังกรวยของไดรเวอร์ด้วยระบบปากฮอร์นให้เป็นคลื่นเสียงดังขึ้นหรือเป็นลมเคลื่อนที่ออกมาเหมือนกับไดรเวอร์ที่อยู่หน้าตู้ แต่การขยายเสียงจากด้านหลังของกรวยด้วยปากฮอร์นจากเล็กไปใหญ่นั้นจะง่ายสำหรับการทำงานของไดรเวอร์ยูนิตและมีความผิดพลาดต่ำเนื่องจากการเคลื่อนที่ของวอยส์คอล์ยที่น้อยมาก
ความถี่สูงและสูงสุดของไดรว์ยูนิตจะออกมาจากวอยซ์คอยล์โดยตรง ผ่านการขยายเสียงด้วยปากฮอร์นที่ทำงานร่วมกันระหว่างส่วนโค้งของเฟสปลั๊กกับส่วนโค้งของกรวยกระดาษขนาดเล็ก ส่วนกรวยขนาดใหญ่จะขยายเสียงตั้งแต่เสียงกลางสูงลงมาถึงกลางต่ำ โดยเป็นการทำงานตลอดย่านความถี่ของวอยซ์คอยล์เดียว ทำให้มีความกลมกลืนต่อเนื่องกันในทุกระดับความดังของเสียง และไม่มีครอสโอเวอร์เน็ตเวิรคมาบดบังหรือเบี่ยงเบน ทำให้การถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงเบาๆได้อย่างครบถ้วน
จากการทดลองทำตู้ Acousta ในแต่ละแบบของยุคสมัยมาทั้งหมดแล้วพบว่าแบบตู้ที่ยังไม่ได้ดัดแปลงหรือปรับปรุงเพื่อให้ง่ายในการประกอบนี้ดีที่สุด
ทดลองฟัง Acousta กับ PM6A, PM7A และ PM5A ได้ที่ Lowther Showroom ลาดพร้าว 71 ติดเลียบด่วน สอบถามโทร/ไลน์ 0845603199 31/8/2566

^โลว์เธอร์ อะคูสต้าร์ รุ่นแรกออกแบบเมื่อปี 1958 โดย โดนัลด์ ชาฟ เจ้าของโลว์เธอร์ในช่วงที่สองซึ่งก่อนหน้านัันเป็นหัวหน้าวิศวกรของโลว์เธอร์ 3/8/2566

ตู้ตามแบบของ Lowther Acousta รุ่นแรก ภายนอกออกแบบใหม่เพื่อใช้เครื่อง CNC ตัดแล้วมาประกอบอย่างปราณีตโดยมีค่าผิดพลาดเพียงมิลลิเมตร 3/8/2566

ลำโพงฟูลเรนจ์หรือลำโพงที่ใช้ไดรเวอร์ยูนิตเดียวในการสร้างความถี่เสียงให้ครบตลอดย่านสำหรับใช้ในการฟังเพลงนั้น ส่วนสำคัญที่สุดเท่าที่เคยได้ทดลองกับหลายๆ รุ่นน่าจะมาจากความเข้มของเส้นแรงแม่เหล็ก ซึ่งถ้าเส้นแรงแม่เหล็กมีความเข้มสูงมากๆ จะทำให้การตอบสนองความถี่ต่ำได้ลงต่ำกว่า และความถี่สูงก็จะตอบสนองได้สูงกว่ามาก ไปได้ไกลสุดๆ 9/7/2566

^ตู้ตามแบบของ Lowther รุ่น Opus ไดรว์ยูนิตของ Lowther รุ่น PM4A ชุดนี้ของคุณกิตติบรรยากาศดี 28/6/2566

^Acousta 1958
ทำตู้ Acousta หลายแบบในแต่ละยุคมาแล้วชอบที่สุดคือรุ่นแรกนี้ครับ
"ACOUSTA" ENCLOSURE
ตู้ Acousta รุ่นแรกของ Lowther นี้จัดวางฟังได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน เพราะให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการเปล่งเสียงทางด้านหน้าโดยตรงของความถี่กลางสูง และความถี่กลางต่ำโดยการขยายเสียงจากระบบปากฮอร์นออกมาในมุมกระจายเสียงเดียวกัน
เมื่อติดตั้งดอกของ Lowther รุ่น PM6 ประสิทธิภาพรวมก็จะแสดงออกมาเต็มๆ ครบทุกความถี่เสียงดนตรีและมีความสมดุลเป็นอย่างมาก
ระบบของลำโพงแบบนี้หรือลำโพงที่มีเส้นแรงแม่เหล็กสูง จะสามารถจัดหาตำแหน่งในการตั้งวางทั้งสองข้างเพื่อฟังให้เห็นแหล่งกำเนิดเสียงดนตรี หรือมิติเสียงในระบบสเตอริโอให้เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
การทำงานร่วมกันอย่างลงตัวระหว่างตู้ Acousta กับดอก PM6 นี้นั้น ทำให้มันเป็นลำโพงมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่สูง ที่มีช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยม และในขณะเดียวกันสมดุลของเสียงจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับความดังที่แตกต่างกัน
17/5/2566

^PM6A กับตู้ Acousta รุ่นแรก สั่งทำเป็นไม้จริงได้ มีมะฮอกกานี 13/5/2566

^PM6A กับตู้ Acousta รุ่นแรก ขวา 13/5/2566

^ Acousta 1958 กับ PM6A 15 โอห์ม ขวา 23/4/2566

^ ตู้ Acousta 1958 กับ PM6A 15 โอห์ม ซ้าย 23/4/2566

^Jimi Hendrix ใช้ Lowther Acousta ที่บ้าน 23 Brook Street, Mayfair ปี 1968

^Lowther PM6C กับตู้ Acousta 116 ที่ Lowther Showroom 28/3/2566

^Lowther PM6A Flux density 1.75 Tesla, PM6C Flux density 1.75 Tesla^ 27/3/2566

^Lowther PM7A Flux density 1.95 Tesla, PM5A Flux density 2.3 Tesla^ 27/3/2566
ตู้เป็นส่วนสำคัญทำให้ดอกลำโพงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 13/3/2566

^เริ่มแผ่นแรกโครงหน้ากาก แผ่นยึดขั้วต่อ และอื่นๆ ความหนา 12mm ของ Acousta 1958 10/3/2566

^Acousta 90 + PM6A ชุด Work from Home ของคุณตรี 31/1/2566

^Acousta 1965 18/1/2566

^Acousta 90 + 3D Stand 5/1/2566

^Acousta 90 + PM7A ชุดนั่งเล่นคุณไตรลุจน์ กทม 4/1/2566

^Opus One B + PM4A บ้านคุณกิตติ กทม. 2/1/2566

^Accolade 4 28/12/2565

^ขอบคุณคุณสุวิทย์ จังหวัดกระบี่ Acousta 116 + Lowther PM7A 29/12/2565

^Acousta 1958 19/12/2565

^มี LOWTHER EX3 และ A45 คู่ละ 47,500 ให้ทดลองฟัง 22/12/2565
^มี LOWTHER PM6C คู่ละ 43,000 และ PM6A คู่ละ 49,000 ให้ทดลองฟัง 17/3/2566

^มี LOWTHER PM7A คู่ละ 68,000 และ PM5A คู่ละ 85,000 ให้ทดลองฟัง 17/3/2566

^ทดลอง Lowther PM6C รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดสุด คู่ละ 37,500 กับแบบตู้ Acousta 116 ของ Lowther ขับด้วยแอมป์หลอด 300B ของ Audio Note Kit One และ Bel Canto หลอด 845 ฟังแบบเปรียบเทียบเพื่ออ้างอิงด้วยลำโพงที่เที่ยงตรงที่สุด Duntech Sovereign ขับด้วย Mark Levinson สนใจสอบถาม โทร/ไลน์ 084 560 3199 20/11/2565

^Lowther Listening Room ห้อง 8 ชั้น 2 ออฟฟิศ ไดนาสตี้ คอนโด ขวามือ 100 เมตร จากปากซอย ลาดพร้าว 71 ยินดีต้อนรับครับ 2/2/2565

^Lowther PM5A คู่ละ 68,000 บาท 6/11/2564
^Lowther PM7A คู่ละ 64,000 บาท 11/12/2565
อย่างที่คุณทราบ Lowther ถูกซื้อโดยเจ้าของใหม่เมื่อปลายปี 2018 ด้วยความกระตือรือร้นที่จะนำแบรนด์ Lowther กลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้งและกลับมาเป็นบริษัทที่ได้รับความนับถือในการจัดหาอุปกรณ์ไฮไฟระดับสูงอีกครั้ง โดยจะเน้นย้ำถึงความพิเศษเฉพาะตัวของแบรนด์ตามค่านิยมดั้งเดิม แต่ในโลกสมัยใหม่กับความจริงที่ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผลิตขึ้นตามสั่งโดยช่างฝีมือชาวอังกฤษเท่านั้น และไม่นำเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก ตลอดเวลาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของไดรฟ์ยูนิตของ Lowther ซึ่งรวมถึงกระดาษใหม่สำหรับกรวยในรุ่นใหม่ ปรับปรุงลวดวอยส์คอยล์ ตลอดจนการเชื่อมต่อ และขอบโฟมลำโพงกับสไปเดอร์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยากอย่างไม่น่าเชื่อในขณะที่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลกและเนื่องจากการขาดแคลนวัสดุทั่วโลก แต่คาดว่าจะมีการปรับปรุงหลายๆอย่างเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ราคาเริ่มต้นคู่ละ 30,000 ถึง 90,000 บาท สอบถาม โทร/ไลน์ 0845603199 3/8/2564

โลว์เธอร์เป็นผู้ผลิตลำโพงที่มีชื่อเสียงและเป็นหนึ่งผู้ผลิตดอกลำโพงที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 75 ปี เมื่อย้อนกลับไปถึงตำนานการสร้างเครื่องเสียงและลำโพงในยุคแรกบางช่วง Paul Voigt ได้ร่วมงานกับ O. Lowther ทำให้ลำโพงโลว์เธอร์ยืนอยู่ที่จุดกำเนิดของการถ่ายทอดเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่นั้นมา และยังคงเป็นผู้นำในการผลิตไดรเวอร์แบบฟูลเรนจ์จนถึงปัจจุบัน บางครั้งนักออดิโอไฟล์หรือนัก DIY ที่จริงจังกับคุณภาพเสียงในระดับที่ยอดเยี่ยมน่าจะหาโอกาสได้ลองว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับไดรเวอร์ระดับพรีเมี่ยมนี้ ซึงเป็นงานฝีมือ Handmade ในระดับตำนานของโลว์เธอร์ ประเทศอังกฤษ สอบถามได้ทุกรุ่น โทร 084 560 3199 Line audiodirect

LOWTHER เป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีลำโพง
LOWTHER เป็นผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ Horn-Loaded
LOWTHER ผลิตไดรเวอร์ Full Range ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก
Hi-Ferric '™ของ LOWTHER มีความเป็นเอกลักษณ์ของระบบที่ทำให้ไดอะแฟรมมีอัตราเร่งได้ฉับไวมหาศาล
LOWTHER ใช้โลหะผสมพิเศษมีแม่เหล็กสัมพัทธ์ที่สูงมากทำให้สามารถใช้พลังงานแม่เหล็กได้อย่างสูงสุด
The DX series
ล้ำสมัยกับ DX ซีรีย์ด้วยเทคโนโลยีแม่เหล็กอันทรงพลัง
ไดรเวอร์ยูนิต DX ใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กโลกที่หายาก 'Rare-earth magnets' ชุดประกอบแม่เหล็กมีน้ำหนักเบาขนาดกระทัดรัด แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแม่เหล็กทั่วไป เมื่อทำงานร่วมกันกับระบบควบคุมวอยส์คอยล์ 'Hi-Ferric' อันเป็นลิขสิทธิของโลว์เธอร์แล้วนั้นจะเพิ่มความฉับไวและการหยุดยั้งได้มากกว่าในอดีต แม้ในชุดประกอบแม่เหล็กขนาดใหญ่และทรงพลังซึ่งโลว์เธอร์มีชื่อเสียงมาโดยตลอด ส่วนประกอบแม่เหล็กที่ทรงพลังกับวอยส์คอยล์แบบนี้ทำให้ไดอะแฟรมหรือกรวยลำโพงสามารถไปถึงอัตราเร่งและหยุดที่เกินความสามารถของระบบแม่เหล็กธรรมดาทั่วไปจะทำได้
Transient response
ประสิทธิภาพของแม่เหล็กกับระบบการควบคุมวอยส์คอยล์ 'Hi-Ferric' เมื่อทำงานร่วมกันจะยิ่งเพิ่มความฉับไวและหยุดยั้งตัวของกรวยได้มากขึ้น เป็นผลให้การตอบสนองความถี่ฉับพลัน Transient response ทำได้อย่างยอดเยี่ยม การสั่นค้างของวอยส์คอยล์ลดลงเหลือน้อยที่สุดด้วย จึงทำให้ได้รับจำนวนข้อมูลที่ถูกบันทึกมาอย่างได้ครบถ้วน ไม่มีรายละเอียดใดที่ไม่ควรพลาดหายไปซึ่งเกิดการหักล้างของสัญญาณอันเนื่องมาจากการสั่นค้างของวอยส์คอยล์ที่ไม่ต้องการ มันเป็นความจริงที่บอกได้ว่าคุณภาพของไดรเวอร์ในซีรีย์ DX นี้สามารถบรรลุถึงคุณสมบัติอย่างน่าทึ่งด้วยแม่เหล็กที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา เมื่อร่วมกับระบบควบคุมวอยส์คอยล์ 'Hi-Ferric' แล้วทำให้ความแรงแม่เหล็กเพิ่มมากขึ้นกว่าแม่เหล็กทั่วไปถึง 10 เท่า
ไดรเวอร์ DX ทุกรุ่นโดดเด่นถึงคุณภาพเสียงที่จะให้ความเพลิดเพลินในการฟังในระดับที่เท่ากับความเพลิดเพลินของการแสดงสด
'Hi-Ferric' ™เป็นชื่อทางการค้าจดทะเบียนของ Hi-Ferric Technology Limited ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของเรา ลวดของวอยส์คอยล์นั้นมีส่วนผสมของธาตุเฟอริกซึ่งประกอบด้วยโคบอลต์เหล็กและนิกเกิลเป็นส่วนใหญ่ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดตัวนำมันจะกลายเป็นแม่เหล็กที่มีพลังงานในตัวของมันเอง ระดับของสนามแม่เหล็กนั้นสัมพันธ์กับระดับของการรักษาเฟอร์ริกซึ่งในกรณีของไดรเวอร์ยูนิตของโลว์เธอร์อยู่ในระดับ 600 เกาส์ เมื่อวางขดลวดที่รับการรักษาไว้ภายในช่องแม่เหล็กของชุดลำโพงมันจะถูกจัดเรียงอย่างสมบูรณ์แบบภายในช่องว่างอากาศ เมื่อได้รับสัญญาณไฟฟ้าขดลวดจะเร่งออกจากหรือถูกดึงดูดไปยังแม่เหล็กแม่ข่ายขึ้นอยู่กับขั้วของสัญญาณที่ใช้ ด้วยเหตุนี้ความเร็วของขดลวดจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากและส่งผลให้ได้สัญญาณที่ชัดเจนยิ่งขึ้นซึ่งสามารถดึงข้อมูลได้มากขึ้นจากแหล่งข้อมูลที่บันทึกไว้ คอยล์ออสซิลเลชันที่ไม่เป็นที่ต้องการจะถูกกำจัดอย่างแท้จริงซึ่งจะช่วยลดความผิดเพี้ยนของสัญญาณจากแหล่งนี้ให้น้อยที่สุด การแยกวัสดุที่บันทึกได้รับการปรับปรุงอย่างมากมาย ผลการทำให้หมาด ๆ ทำได้ด้วยวัสดุ 'Hi-Ferric' ™เมื่อไม่มีการใช้สัญญาณ (หรือระหว่างสัญญาณ) ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้แม่เหล็กแหลวกับวิธีการเหล่านี้ แต่ไม่สามารถบรรลุผลเช่นเดียวกับข้อดีของลวด 'Hi-Ferric' ™ ในการใช้แม่เหล็กเหลวเหนียวเหล่านั้นจะถูกลากไปตามขดลวด สิ่งนี้มีผลกระทบที่ลดลงกับเสียงที่ทำซ้ำ ในทางกลับกัน 'Hi-Ferric' ™เป็นส่วนหนึ่งของวอยส์คอยล์และอยู่กับขดลวดจึงเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วเนื่องจาก 'Hi-Ferric' ™คอยล์อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในช่องว่างอากาศของแม่เหล็กเพื่อรับสัญญาณถัดไป นอกจากนี้เนื่องจาก 'Hi-Ferric' ™เป็นส่วนหนึ่งของขดลวดจึงสามารถจัดการกับทุกช่วงความถี่ได้ทั้งหมดในขณะที่แม่เหล็กเหลวใช้ได้เฉพาะความถี่สูงไม่สามารถใช้งานได้จริงสำหรับความถี่ต่ำและกลางต่ำ

ซีรีย์ EX พัฒนาการล่าสุดในการใช้เทคโนโลยีทั้งหมดของ Lowther
EX เป็นซีรีย์ล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ทั้งหมดของ Lowther ได้อย่างสมบูรณ์ ทุกรุ่นของ EX จะทำงานร่วมกับระบบตู้ลำโพงแบบโหลดฮอร์นอะคูสติกที่ด้านหลังได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ชุดประกอบของกรวยกับวอยส์คอยล์และแม่เหล็กนั้นทำงานมีความสมดุลกับแรงดันภายในห้องอะคูสติกด้านหลังตู้ได้อย่างดี อีควอไลเซอร์เฟสปลั๊กแบบรูปทรงใหม่จะควบคุมทิศทางการกระจายเสียงของกรวยเสียงแหลมที่ด้านหน้ากับการตอบสนองความถี่สูงเพิ่มขึ้น และความถี่กลางสูงก็ได้รับการปรับปรุงอย่างมากเช่นกัน เสียงที่ถูกสร้างใหม่นั้นสะอาดชัดเจนมากขึ้น การแยกแยะเครื่องดนตรีทำได้ดีมาก พร้อมทั้งการพับขอบของกรวยเสียงแหลมเพื่อลดการหมุนกลับของเสียงจากกรวยเสียงกลาง ทำให้ทั้งสองกรวยทำงานได้อย่างกลมกลืนพร้อมเพรียงกัน ในความถี่ที่แน่นอนของแต่ละช่วงความถี่ที่ราบเรียบมีรายละเอียดของชิ้นดนตรีเพิ่มมากขึ้นจากแหล่งบันทึกเดิมกับประสบการณ์การฟังใหม่ทั้งหมด
เทคโนโลยีแม่เหล็กโลกที่หายากล่าสุดได้ถูกนำมาใช้เพื่อให้สามารถควบคุมไดอะแฟรมได้อย่างสมบูรณ์ตลอดช่วงความถี่เสียง ซึ่งส่งผลให้ข้อมูลสูงสุดถูกดึงออกมาจากแหล่งที่บันทึกในขณะที่ให้การตอบสนองที่ราบรื่นทุกความถี่ ชุดไดรเวอร์ยูนิตซีรีย์ EX นี้เป็นไดรเวอ์ยูนิดแบบฟูลเร้นจ์ที่ดีมากที่สุดที่เคยผลิตมา ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับแบบตู้ของ Lowther เองในทุกรูปแบบทั้งในอดีตและปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงใดๆ สามารถเลือกขนาดหรือรูปทรงเพื่อความเหมาะสมได้ง่ายตามรสนิยมของท่านกับประสบการณ์ใหม่ของการฟังได้อย่างเพลิดเพลิน

ดีที่สุดทั้ง 3 รุ่นในซีรีย์ EX
The A series
ไดรเวอร์ยูนิตของลำโพง Lowther A series มีไว้สำหรับใช้ในการสร้างคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดเท่านั้น

^PM6A คู่ละ 39,900 บาท 3/2/2565
The A series
การออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอันเป็นเอกลักษณ์ของโลว์เธอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยวัสดุที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและเทคนิคความแม่นยำละเอียดระดับไมโครเท่านั้นที่ใช้ในการผลิต ไดรเวอร์ในซีรี่ส์ 'A' นั้นมีขีดขยายความสามารถในการออกแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในระบบที่ใช้ไดรเวอร์ยูนิตเดียว และการใช้หลายยูนิตในตู้เดียว โดยทำงานร่วมกันกับการออกแบบตู้ที่มีฮอร์นโหลดของโลว์เธอร์เองในแต่ละรุ่นที่ไม่มีใครเทียบได้ หากต้องการใช้งานร่วมกันของหลายยูนิตต่อหนึ่งตุ้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์คมาแบ่งตัดความถี่ระหว่างแต่ละไดรเวอร์



^Lowther PM4A 15ohm Silver #383613 คู่ละ
The C series
ไดรเวอร์ในซีรี่ย์ C ใช้แม่เหล็กแบบ Ceramic เหมือนลำโพงทั่วไปแต่มีสนามแม่เหล็กสูงกว่าถึง 17,000 gauss และความไวสูงถึง 92dB ทั้งสองขนาดคือ PM6C ขนาด 8 นิ้วและ C45 ขนาด 6 นิ้ว เป็นไดรเวอร์ยูนิตแบบฟูลเรนจ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาและประหยัดที่สุด

Prices applicable from 4th April 2020

.png)
ไดรเวอร์ลำโพงที่มีคุณภาพสูงจะต้องการตู้ที่มีคุณภาพสูงที่สุดด้วย ต้องสร้างขึ้นตามการออกแบบอย่างแม่นยำเพื่อให้ตรงกับพารามิเตอร์ของไดร์เวอร์กับตู้นั้นๆ ขนาดและระยะห่างหรือองศาในการหักมุมในคู้อาจมีความซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละส่วน เช่นส่วนหลังไดรเวอร์ V1 ส่วนกลาง V2 และส่วนท้ายก่อนออกจากตู้ V3 จะต้องสร้างขึ้นอย่างแม่นยำด้วยเพื่อให้ไดเวอร์กับตู้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

เรามีตัวเลือกอยู่สองวิธีที่จะช่วยเหลือคุณในการสร้างตู้ลำโพงให้ดีที่สุด
หากคุณต้องการสร้างตู้เองโดยช่างฝีมือของคุณโปรดติดต่อเราเพื่อขอแบบอย่างละเอียดเมื่อคุณซื้อไดเวอร์แล้ว
โดยเลือกจากรูปทรงของตู้ในแต่ละรุ่นที่จะใช้กับไดร์เวอร์รุ่นนั้นก่อนเช่น Bicor, Acadamy, Acousta หรือ Audiovector
ซึ่งในแต่ละแบบเป็นรุ่นที่มีชื่อเสียงและได้รับการออกแบบอย่างประณีตโดยโลว์เธอร์จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
หรือให้เราสร้างตู้ให้เพื่อความมั่นใจตามความต้องการร่วมกันด้วยประสบการณ์ทีมีมานาน

ลำโพง Lowther ตู้ Opus One B ของคุณมงคล ไม้ Birchply เกรด A ดอก PM4A Silver voice coil 15 Ohm สาย Duelund ขั้วต่อ Cardas ลำดับ LOWTHER THAILAND 4A, 4B


^ทดลองวาง Dunlavy SC-IV ที่ตำแหน่ง Corner horn เพื่อเซ็ตอัพให้เสียงดีทึ่สุดแล้วเปรียบเทียบกับ Lowther Acousta 116
Opus One B (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM2A, PM4A, PM6A, PM7A, PM6C

Height: 1244mm, Width: 863mm & 451mm, Depth: 660mm, Difficulty: Expert, Suitability: Large-sized room


TP1-Isis (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM2A, PM6A, PM7A, PM6C

Height: 1024mm, Width: 820mm, Depth: 489mm & 582mm, Difficulty: Expert, Suitability: Large-sized room
Fidelio MkII (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM2A, PM6A, PM7A, PM6C

Height: 1000mm, Width: 280mm, Depth: 460mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Mid to Large Rooms
Bicor 2000 (Two Units per Enclosure)
Front – DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM6A, PM6C
Rear – DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM6C

Height: 814mm, Width: 254mm, Depth: 384mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Mid to Large Rooms
Bicor 200 (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM6C

Height: 718mm, Width: 250mm, Depth: 340mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Small to Mid Sized Rooms
Bicor 20 (One Unit per Enclosure)
DX45, DX55, PM45C

Height: 450mm, Width: 238mm, Depth: 240mm, Difficulty: Easy, Suitability: Small Rooms
Acousta 124 (Two Units per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2*, EX3*, EX4*, PM6A, PM7A, PM6C
* Dependent on drawings used for construction
Height: 830mm, Width: 459mm, Depth: 367mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Mid to Large Rooms
Acousta 116 (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2*, EX3*, EX4*, PM6A, PM7A, PM6C
* Dependent on drawings used for construction

Height: 855mm, Width: 468mm, Depth: 373mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Mid to Large Rooms
Acousta 109 (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM2A, PM6A, PM7A, PM6C


Height: 696mm, Width: 392mm, Depth: 336mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Mid medium-sized rooms

^ Lowther Acousta 109 Birch Plywood Cabinets
Acousta 90 (One Unit per Enclosure)
DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM2A, PM6A, PM7A, PM6C

Height: 634mm, Width: 342mm, Depth: 238mm, Difficulty: Easy, Suitability: Small Size Rooms

^Lowther Thailand Acousta 90
Accolade 4 (Two Units of each type per Enclosure)
Top – DX45, DX55, DX65, PM45A, PM45C
Middle/Bottom – DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM6A, PM7A, PM6C

Height: 698mm, Width: 380mm, Depth: 380mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Medium sized room

Accolade 2011 (One Unit of each type per Enclosure)
Top – DX45, DX55, DX65, PM45C
Bottom – DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM6A, PM6C

Height: 550mm, Width: 250mm, Depth: 333mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Smaller Rooms
Academy (Two Units per Enclosure)
Top – DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM6A, PM7A, PM6C
Front – DX2, DX3, DX4, EX2, EX3, EX4, PM2A, PM6A, PM7A, PM6C

Height: 1000m, Width: 280mm, Depth: 440mm, Difficulty: Moderate, Suitability: Medium to large-sized Rooms.

Audiovector 1958
Audiovector Auditorium 1972
New Audiovector